4 เดือนเต็มๆ ในการตามล่าฝันติดปีก ของน้องเทนด์ นางฟ้า Oman Air
ครูจ๊ะและครูมากิโนะ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของน้องเทนด์ นางฟ้า Oman Air คนใหม่จากสนามสอบ กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันนี้จึงขอนำประสบการณ์ที่นำความสำเร็จของน้องเทนด์ นักเรียนจากโปรแกรมทัศนศึกษา Service & Hospitality 2015 มาแบ่งปันและบอกต่อให้กับน้องๆ นักล่าฝีนที่กำลังมองหาโอกาสไปสมัครงานลูกเรือในสนามสอบต่างประเทศ จดหมายฉบับนี้เป็น Motivation ที่ดีให้กับทุกคนแน่นอน^_^
จดหมายจากน้องเทนด์
สวัสดีค่ะ ครูจ้ะและเพื่อนๆนักล่าฝันทุกคน ก่อนอื่นหนูต้องขอบคุณครูจ้ะและครูมากิโน๊ะมากๆเลยค่ะที่ทำให้หนูได้มีโอกาศติดปีกเหมื่อนคนอื่นๆในที่สุดหลังจากพยายามมาแล้วหลายสายการบินหนูก็ได้ปีกของ Oman Air เป็นที่เรียบร้อยแล้วค่าาาาา ^o^ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจสายการบินนี้ หนูจะขอเล่ารายละเอียด และขั้นตอนการสมัครคร่าวๆ ค่ะ ><
เริ่มจากมีอยู่วันหนึ่งหนูนั่งเลื่อนนิวฟีดไปเรื่อยๆ จนไปเจอเข้ากับประกาศรับสมัครลูกเรือของสายการบิน Oman Air แต่เป็นสนามสอบที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียค่ะ ตอนนั้นก็เลยลองส่ง CV กับ Cover Letter แล้วก็รูปถ่ายกับสำเนาผลการสอบ Toeic ไปทางอีเมลค่ะ เพราะว่าต้องได้อินไวท์ก่อนถึงจะได้ไปพรีสกรีนรอบจริงในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2016 ที่กัวลาลัมเปอร์ค่ะ
หลังจากนั้นก็รอเมลตอบกลับค่ะ แต่ก็ไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ มีเพื่อนบางคนที่ได้อินไวท์ให้ไปพรีสกรีนวันที่ 3 ที่ออฟฟิสที่กรุงเทพค่ะ เนื้อหาในอีเมลบอกว่าต้องไปวันที่ 3 เท่านั้น เพราะจะจัดแค่รอบเดียว เพื่อนๆนักล่าฝันที่รู้จักกันคนอื่นเริ่มทยอยได้ แต่หนูไม่ได้อยู่คนเดียว 555 ตอนนั้นเริ่มสงสัยแล้วค่ะว่าทำไมแค่รอบยื่น CV ออนไลน์ยังไม่ผ่าน
แต่สุดท้ายเวลาผ่านมาถึงวันที่ 6 หนูก็ได้ Invitation Email ตอบกลับมาค่ะ ว่าให้ไปพรีสกรีนวันที่ 9 ตอนบ่ายโมงครึ่ง ที่กัวลาลัมเปอร์เลย 555 ตอนนั้นงงมากค่ะ ในใจก็ยังลังเลไม่รู้ว่าจะไปดีหรือเปล่า กังวลว่าอาจจะสู้คนอื่นๆ ไม่ได้ แถมหนูว่ายนำ้ไม่เป็นด้วยค่ะ 555 ถ้าผ่านขึ้นมาจริงๆ นี่ต้องเรียนว่ายนำ้อย่างด่วนเลยสุดท้ายหนูก็ตัดสินใจไปค่ะ เพราะไม่อยากปล่อยโอกาส เย็นวันนั้น รีบจองตั๋วเครื่องบินกับจองโรงแรมทันทีเลยค่ะ
1st Day; Pre-Screening and Grooming Check
วันนี้ตื่นตั้งแต่แปดโมงเช้ามาอ่านหนังสือเตรียมสอบแล้วก็แต่งตัวค่ะ ได้ข่าวมาว่าสายการบินนี้โพรเสสจะเป็นแบบวันเดียวรู้ผล หนูเลยเตรียมไปทุกด่านเลยค่ะ เพราะมีประสบการณ์กับการไปสมัครสายการบินอื่นๆ มาบ้างแล้ว แล้วก็ผ่านเข้ารอบลึกมาหลายรอบแต่ไม่เคยได้เป็นสักที… คราวนี้หนูเลยตั้งใจว่าสายการบินนี้ยังไงก็ต้องรอบเดียวผ่าน 555
ในอีเมลบอกว่าหนูได้รอบบ่ายโมงครึ่งค่ะ หนูไปถึงตั้งแต่เที่ยงนิดๆ เพราะเผื่อเวลาไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ค่ะ สถานที่สอบวันนี้จัดที่บริษัท Inter Excel Kuala Lumpur ค่ะ บริษัทนี้เป็นสถาบันเตรียมความพร้อมสำหรับนักล่าปีกจากมาเลค่ะ แล้วก็เป็น recruiter office ของ Oman Air และสายการบินอื่นๆ อีกมากมายค่ะ หลังจากลงชื่อรายงานตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วหนูก็ได้หมายเลข 113 ค่าา ปีนี้เลข 3 เป็นลัคกี้นัมเบอร์ขอหนูมาหลายรอบแล้วค่ะ ขอให้รอบนี้ก็เป็นอย่างนั้น 555
กรรมการน่ารักมากๆ เป็นทีม HR มาจากโอมานเลย เขาเเปลกใจหน่อยๆ เมื่อรู้ว่าหนูมาจากประเทศไทย แล้วก็ชมว่าบุคลิกหนูดีมากค่ะ ขอให้ได้เป็นสมใจ… หนูนี่ยิ้มเลย แต่ก็แอบเก็บอาการแล้วก็ขอบคุณเขา พยายามทำลุคตามคำแนะนำของครูจ้ะให้มากที่สุดค่ะ หลังจากนั่งรอเรียกคิวก็มีทีมงานของทางออสฟิสนำแบบฟอร์มมาให้สมัครค่ะ เป็นใบสอบถามข้อมูลทั่วไป หลังจากกรอกเสร็จเค้าก็ให้นั่งรอเรียกคิวเข้าไป Pre-Screening กับ Grooming Check ทีละคนค่ะ หนูคิว 113
อุปสรรคสำคัญของหนูคือด่านตรวจผิวหารอยแผลเป็นค่ะ หนูกังวลมากเพราะ หนูเคยตกรอบ เคบาย่า อันเป็นด่านสุดท่ายของการสอบคัดเลือกที่สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลนส์… ระหว่างที่นั่งรอเรียกคิวหนูก็เมคเฟรนดิ์กับเพื่อนใหม่ชาวมาเลค่ะ เพราะไม่เห็นคนไทยเลย เหมือนคนไทยจะมีแค่หนูคนเดียวสำหรับวันนี้ เพื่อนๆ มาเลนิสัยดีมากค่ะ แล้วก็มีเพื่อนๆ ชาวเกาหลีอีกกลุ่ม ที่มาวอร์คอินที่นี่เหมือนหนู คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันไปได้พักใหญ่ๆ ก็มาถึงคิวของหนูแล้วค่าาา
ในที่สุดหนูก็ได้เข้ามาทำการ Pre-Screening กับ Grooming Check ตอนหกโมงเย็นค่ะ ตอนนั้นกรรมการเดินมาบอกล่วงหน้าว่า คนที่เลขที่ตั้งแต่ 100 – 113 หลังจาก ผ่านด่านวันนี้ให้มาต่อพรุ่งนี้ค่ะ เพราะวันนี้เวลาไม่พอ มีเพื่อนๆ เกาหลีหลายคนเสียดายค่ะ เพราะต้องเลื่อนตั๋วกลับประเทศเป็นวันมะรืน แต่สำหรับหนูดีใจมากค่ะ เพราะตอนนั้นยอมรับเลยว่าสมองเบลไปหมด หลังจากนั่งรอกว่าหกชั่วโมง แถมหิวข้าวด้วยค่ะ ไม่ได้ทานอะไรเลย คิดว่าถ้าวันนั้นต้องสัมภาษณ์กับสอบด้วยนี่คงแย่แน่ๆ ค่ะ สภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยมากๆ กรรมการเดินมารับหนูเข้าไปในห้องค่ะ เป็นกรรมการคนเดิมที่รับลงทะเบียนหนูเมื่อตอนบ่าย เราทักทายกันอีกรอบค่ะ เค้าบอกว่าเค้าดีใจที่ได้เจอหนูอีกครั้ง และขอบคุณที่หนูยังอดทนรอไหวค่ะ 555
ปรากฎว่าหนูผ่านด่านตรวจหารอยแผลเป็นมาได้ แต่ดันไปติดที่การเช็คค่า BMI ค่ะ กรรมการเค้าก็แซวๆ ว่าทำไมยูตัวเล็กจังเลย นำ้หนักแค่นี้ทำงานบนเครื่องยูจะป่วยเอานะ แล้วเค้าก็ค้อมเม้นใว้ในใบสมัครของหนูค่ะว่าหนูผอมไป เป็นไปได้ต้องเพิ่มอีก 4-7 กิโลกรัม ตอนนี้หนูแอบกังวลแล้วค่ะ ยอมรับว่ากลัวไม่ผ่าน เพราะก่อนหน้านี้มีเพื่อเกาหลีคนหนึ่งตัวเล็กเหมือนกัน แต่เล็กกว่าหนูค่ะ เค้าก็ไม่ผ่าน
หนูก็ยิ้มๆ แล้วตอบกลับแบบสุภาพว่าจริงๆ เคยอ้วนกว่านี้ค่ะแต่พยายามลดเพราะว่าอยากจะรักษาบุคลิคตัวเองให้ดูดีค่ะ แต่เชื่อว่าค่า BMI สามารถเพิ่มได้โดยการทานอาหาร และออกกำลังกายที่ถูกต้องค่ะ ซึ่งถ้าคิดจะทำงานสายนี้ความพร้อมของร่างกายเป็นสิงสำคัญและหนูจะไม่มองข้ามค่ะ ซึ่งทำให้กรรมการเค้าก็ดูพอใจกับคำตอบหนู เราคุยกันเล็กๆน้อย แล้วเค้าก็บอกว่าหนูผ่านค่ะ ให้มารอบ Final Interview กับ English Test พรุ่งนี้ตอนเจ็ดโมงครึ่ง เพราะวันนี้เวลาไม่พอจากนั้นกรรมการท่านนี้ก็เดินมาเปิดประตูส่งหนูออกมาจากห้องค่ะ
ระหว่างทางที่เดินกลับโรงแรมหนูคิดตลอดว่าการแข่งขันล่าปีกครั้งนี้ไม่ง่ายซะแล้ว คู่แข่งคือชาวมาเลที่สกิลภาษาอังกฤษค่อนข้างสูงกว่าคนไทยค่ะ อันนี้ยอมรับเลย แถมแต่ละคนที่เจอวันนี้ส่วนมากจะเป็นลูกเรือเก่าค่ะ มีทั้งของ Malaysia Airlines, Malaysia กับ Air Asia แล้วก็สายการบินเพื่อนบ้านอย่าง Royal Brunei Airline ก็มาค่ะ… ซึ่งหนูต้องพยายามเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเค้าให้ได้ค่ะ แม้หนูจะไม่มีประสบการณ์การเป็นลูกเรือมาก่อนแต่หนูมีประสบการณ์การสมัครมาแล้วหลายสนาม ยังไงหนูก็จะไม่ยอมแพ้
คืนนั้นกลับที่พักไปหนูก็เริ่มต้นซ้อมการแนะนำตัวและสัมภาษณ์สำหรับวันพรุ่งนี้เลยค่ะ หนูยึดแนวข้อสอบจากแนวการสัมภาษณ์รอบไฟนอลของสิงคโปล์แอร์ไลนส์ที่ครูจ้ะเคยส่งมาให้ค่ะ เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีนอกเหนือจากนี้ แล้วก็อ่านทบทวนข้อสอบค่ะ ถึงจะยังไม่รู้แนวแต่การสอบหลายครั้งที่ผ่านมาทำให้พอเข้าใจบ้าง ว่าข้อสอบสายการบินจะมาแนวไหน แล้วก็รู้ว่าจุดอ่อนของตัวเองอยู่ตรงไหนค่ะ หนูจะอ่อนเรื่อง Vocab เพราะหนูขี้เกียจท่องศัพท์ค่ะ 555 สมัยเรียนมีอะไรก็เปิดดิกชันนารีตลอด มันเลยติดนิสัยจนเรียนจบค่ะ อันนี้ไม่ดีเลยต้องรีบแก้ไขด่วนเลยค่ะ
2nd Final Interview and English Test
วันนี้หนูตื่นมาเตรียมตัวตั้งแต่ตีสามค่ะ ถ้าเวลาประเทศไทยคือตีสองง่วงมากๆค่ะ แต่เพราะโอกาศในการพรีเซ้นต์ตัวเองมีแค่ครั้งเดียวเลยต้องพยายามให้ถึงที่สุดค่ะ หนูทวนแนวข้อสอบแล้วก็ซ้อมพูดสำหรับรอบไฟนอลอีกครั้งค่ะ พอเวลาตีสี่กว่าๆ ก็เริ่มอาบน้ำแต่งตัว วันนี้ใส่สูทแขนสั้นสีเทาค่ะจะได้ดูเป็นลุคที่ทางการกว่าเมื่อวานนิดหน่อย ผมยังรวบตึงและทาลิปแดงตามเสต็ปเดิมค่ะ สำหรับกรูมมิ่งวันนี้จะต้องดูเป็นลุคที่ทางการกว่านั้น
หลังจากแต่งตัวและบรีฟตัวเองคร่าวๆ อีกครั้งสำหรับการสอบสองด่านวันนี้ก็ได้เวลาลงมาทานอาหารเช้าและเดินไปที่ออฟฟิสค่ะ อากาศตอนเช้ากำลังเย็นสบายไม่ร้อนจัดเหมือนเมื่อวาน ระหว่างทางเจอเพื่อนๆมาเลที่มาวอร์คอินรอบเช้าวันนี้หลายคนค่ะ เลยเดินไปคุยไป เมื่อเข้าไปถึงออฟฟิสพบว่ามีคนมารอค่อนข้างเยอะค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวมาเลที่มาวอร์คอินวันนี้ หลังจากลงชื่อรายงานตัวแล้วรับสติกเกอร์หมายเลข 113 มาแปะไว้ที่อกเหมือนเดิมแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาไปต่อแถว รอเข้าห้องสำหรับรอบ Final Interview เลยค่ะ
หนูได้คิวเป็นเป็นคนที่ สองค่ะ ….ระหว่างรอก็ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ที่มาวันนี้เช่นเคย และยังไม่เจอคนไทยเหมือนเดิมค่ะ โพรเสสของการสัมภาษณ์เดี่ยวครั้งนี้คือระยะเวลา 15-30 นาทีค่ะ หลังจากสัมภาษณ์เสร็จก็ออกมานั่งรอหน้าห้องพนักงานด้านนอกจะเดินมาแจ้งผลภายในห้านาทีค่ะ ถ้าได้ก็ไปต่อด่านสุดท้ายคือสอบภาษาอังกฤษ …..ถ้าไม่ได้ก็ค่อยมาสมัครใหม่ปีหน้าค่ะ หลังจากเพื่อนหมายเลข 112 ออกมารอผลได้สักพัก ปรากฏว่าเพื่อนคนนี้ตกค่ะ รีบถือกระเป๋าเดินร้องไห้ออกจากออฟฟิศไปเลย น่าเห็นใจมากเลยค่ะ แต่หนูไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้วค่ะครู สำหรับสายนี้หนูต้องไปต่อให้ได้ค่ะ
จากนั้นไม่นานกรรมการก็เดินมาเรียกเลขที่หนูค่ะ พอเดินเข้าไปในห้องประชุมใหญ่จะเป็นโต๊ะยาวค่ะ กรรมการผู้ชายสามท่านและกรรมการผู้หญิงอีกหนึ่งท่านนั่งที่หัวโต๊ะค่ะ ส่วนหนูนั่งอีกฝั่งนึง ซึ่งก็ไม่ได้ไกลมาเท่าไหร่ค่ะ ….หลังจากก้มหัวทักทายแล้วกรรมการก็เชิญให้นั่งพร้อมกับพูดแนะนำตัวสั้นๆค่ะ หนูนี่ยิ้มไปก่อนแล้วก็ขอบคุณเขาเป็นอย่างแรกที่เค้าให้โอกาศหนูค่ะ จากนั้นก็จะเป็นการแนะนำตัวสั้นๆ ประมาณสามนาที พอพูดจบก็จะเริ่มเข้าสู่เสต็ปของการสัมภาษณ์แล้วค่ะ
คำถามที่เจอเหมือนกับที่เตรียมไว้เป๊ะเลยค่า มีทุกคำถามที่อยู่ในบรีฟฉบับสิงคโปล์แอร์ไลนส์ที่ครูจ้ะส่งมาให้เลยค่ะ Final Interview คำถามแรกเลยนะคะ
Whay you’re interested in cabin crew job?
ข้อนี้ง่ายมากเลยค่ะ หนูเตรียมตัวมาแล้วด้วยว่ายังไงก็้ตองเจอเลยตอบไปตามความจริงเลยค่ะ ว่าชอบลักษณะของงานที่ต้องใส่ใจกับการบริการและความปลอดภัยของผู้โดยสาร มันอาจจะเหมือนประดิษฐ์ไปสักหน่อยค่ะ หนูเลยเพิ่มไปด้วยว่าที่สำคัญอาชีนี้ตรงกับสายที่หนูเรียนมา หนูเรียนจบภาษาอังกฤษ หนูสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยมและรู้จักระดับของภาษา ซึ่งเวลานำไปใช้พูดกับลูกค้าจะสามารถใช้ภาษาที่ถูกต้องไพเราะ ไม่หยาบคายต่อลูค้าค่ะ และที่สำคัญอาชีพนี้ต้องการคุณสมบัติทุกอย่างที่หนูมี ดังนั้นหนูจึงมีความตั้งใจไมต่างจากเด็กคนอื่นๆ ที่อยากอยากทำงานที่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองเรียนมาค่ะ
พอหลังจากพูดจบ กรรมการสองท่านก็จดคำตอบของหนูลงไป หนูแอบเห็นเค้ายิ้มด้วยค่ะ เลยรู้สึกว่าคำตอบของหนูทำให้เค้าพอใจในระดับหนึ่ง ในระหว่าที่กรรมการสองท่านกำลังจดคำตอบของหนู กรรมการอีกท่านก็เริ่มปล่อยคำถามที่สองแบบไม่ให้เว้นหายใจเลยค่ะ
What do you know about Oman Air?
ยิ้มหวานอีกรอบค่ะ คำถามนี้หนูก็เตรียมตัวมาแล้ว เลยเกริ่นไปว่า The best airline in Muslim base country… พอได้ยินแบบนั้นกรรการท่านก็ยิ้มเหมือนพอใจค่ะ หนูเลยใส่ต่อไปอีกว่า เป็นสายการบินที่มีความมั่นคงในการพัฒนาในระดับก้าวกระโดด การันตีจากรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมต่างๆ (แอบขอบคุณข้อมูลจากแผ่นพับระหว่างนั่งรอพรีสกรีนเมื่อวานค่ะ) ซึ่งถ้าได้ร่วมงานด้วยก็จะต้องปฎิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด แม้ว่าจะต่างศาสนา แต่ในเมื่ออยู่ในประเทศมุสลิมอีกทั้งเราเป็นตัวเเทนของสายการบิน ซึ่งเหมือนกับการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่จะต้องรักษาภาพลักษ์ของสายการบินประจำชาติต่อไปค่ะ 5555 ตอบได้เวอร์มาก ปากมันไปเองค่ะ
คราวนี้ ข้อมูลมาจากไหนไม่รู้เต็มไปหมด แถไปเรื่อยเลยค่ะ 555 แต่เห็นกรรมการท่านยิ้มพอใจแล้วก็พยักหน้าก็โล่งใจไปหน่อยนึง
What Will You Do If You Don’t Get This Position?
คำถามนี้ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดเดาค่ะ หนูตอบไปตรงๆ เลยว่าทำงานที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะภาษาค่ะ เพราะหนูเรียนภาษา หนูมีแค่ภาษา และไม่ลืมที่จะหาโอกาศสมัครงานลูกเรือกอีกหลายๆ ครั้งค่ะ เพราะหนูมีความตั้งใจจะทำงานนี้จริงๆ พอพูดจบกรรมการท่านก็ยิ้มๆ ค่ะ แล้วก้มหน้าลงจดคำตอบเหมือนเดิม
It is OK to stay abord?
นี่ก็เป็นข้อที่เตรียมตัวมาเหมือนกันค่ะ Absolutely OK เลยค่ะ หนูบอกว่าหนูไม่มีความกังวลในเรื่องอยู่ไกลบ้านค่ะ เพราะโดยส่วนตัวหนูชอบเดินทางอยู่แล้ว เพราะหนูไปมาหลายประเทศและเคยอยูต่างประเทศเป็นระยะเวลาเกินปีมาแล้ว หนูมีภูมิต้านทางเรื่องการอยู่ไกลบ้านแล้วก็การค้นพบประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นเรื่องที่หนูชอบทำอยู่แล้วค่ะ
พอพูดมาถึงตรงนี้กรรมการก็เลยชวนคุยต่อเลยว่าไหนลองบอกมาหน่อยว่าไปประเทศไหนมาบ้าง แล้วประเทศไหนอยู่ยากที่สุด หนูเลยเลยไล่ให้ฟังเเทบทุกประเทศเลยค่ะ บอกว่าประเทศนั้นประเทศนี้เป็นยังไง เพราะไม่แน่ใจว่าที่ท่านถามแบบนี้เพราะต้องการจะทดสอบว่าหนูรู้จริงรึโม้ สุดท้ายหนูจบที่ประเทศอเมริกาค่ะ อยู่ยากที่สุดเพราะต้องทำงานส่งตัวเองเรียน ไม่ได้ขอเงินจากทางบ้านเหมือนประเทศอื่น ต้องไปเป็นเด็กเสริฟเก็บเศษเงินจากลูกค้าเพื่อมาจ่ายค่าที่พักกับซื้ออาหาร
พอพูดมาถึงตรงนี้กรรมการท่านก็ขำค่ะ แล้วก็ขอให้เล่าประสบการณ์ตอนไปอยู่อเมริกาให้ฟังหน่อย พอหนูเล่าจบมีการเเซวด้วยค่ะว่า ถ้ายูได้ทำงานกับเราชีวิตยูก็จะไม่ลำบากเหมือนตอนอยู่ที่อเมริกาแล้วนะ เราจะจ้างยูเยอะกว่าที่ทางอเมริกาจ้างยูนะ ทีนี้ยูก็กินลอบส์เตอร์แบบที่ยูอยากจะกินได้แล้วนะ 55555 ครูคะ มาถึงตรงนี้หนูเริ่มขำแบบจริงๆ จังๆ แล้วค่ะ ไม่ตื่นเต้นเลย หนูรุ้สึกว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้หนูผ่านค่ะ หนูรู้สึกแบบนั้น
คำถามต่อๆ ไปจะเป็นคำถามเกี่ยวกับข้อมูลที่ใส่ไว้ใน CVค่ะ ไล่คุยกันทีละหัวข้อแบบไม่ปล่อยหนูเลย 555
แล้วคำถามสุดท้ายก็มาค่ะ ว่ายูมีอะไรจะถามพวกเราไหม ถ้าตามความเป็นจริงหนูไม่มีอะไรจะถามจริงๆ ค่ะ แต่หนูต้องถาม 555 เพราะมันหมายถึงว่าหนูมีความสนใจต่อเรื่องราวเกี่ยวกับสายการบินของเค้าค่ะ หนูเลยถามไปว่า หลายวันที่ผ่านมาหนูลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งกายของ ผญ มาค่ะ แล้วสับสนเล็กน้อยว่าแบบฟอร์มของสายการบินสำหรับ ผญ คือฟอร์มไหน เพราะหนูเห็นทั้งกระโปรงและกางเกง ไม่แน่ใจว่าแบบไหนคือแบบเก่าและแบบใหม่ค่ะ เลยอยากถามตรงนี้เพราะสับสนค่ะ 555 พูดไปแล้วหนูก็เสียวๆ อยู่เหมือนกันว่าคำถามมันจะบ้าบอไปรึเปล่า >< แล้วกรรมการท่านนึงบอกว่า ยูไม่ต้องวอรี่หรอก เราจะให้ยูทุกฟอร์มเลย ทั้งกางเกงและกระโปรง ให้หลายชุดด้วยนะ >< หนูก็ยิ้มสิคะ กรรมการท่านพูดเเบบนี้เหมือนตั้งใจจะสื่อเป็นนัยๆ ว่าหนูผ่านแล้ว(รึเปล่า?) 555
สุดท้ายก็หมดเวลาการสัมภาษณ์รอบไฟนอลของหนูค่ะ ทั้งหมดประมาณยี่สิบนาที ก่อนออกหนูก็ลุกขึ้นแล้วโค้งตัวเตรียมออกจากห้องค่ะ
แล้วกรรมการท่านนึงก็แซวอีกรอบว่า ในเปเปอร์ของยูเราโน๊ตไว้ว่ายูต้องเพิ่มนำ้หนักนะ ยูตัวเล็กไป เจอกันรอบหน้ายูต้องเพิ่มให้ได้ห้ากิโลนะไหวไหม? แน่นอนค่ะว่าหนูชอบกำจัดจุดอ่อนของตัวเอง เพราะหนูไม่ชอบมีจุดอ่อนค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ก็เหมือนกัน หนูเลยบอกไปค่ะว่าสบายมากเลย ถ้าคุณเลือกหนูทั้งๆ ที่คุณสมบัติของหนูตอนนี้อาจะยังไม่ตรงทุกอย่าง แต่หนูสัญญาว่าถ้าหนูได้หนูจะกินเค้กทุกวันค่ะ เรื่องเพิ่มนำ้หนักนี่ง่ายมาก 5555 ตอบไปก็นึกในใจว่าคำตอบงี่เง่าอีกแล้วจะไม่ผ่านเพราะแบบนี้แหล่ะ แต่เปล่าเลยค่ะ ท่านกรรมการทั้งหมดขำกลิ้งกับมุกที่หนูเพิ่งส่งไปแถมมีแนะนำมาด้วยนะคะว่ายูต้องกินกะทิกับมะม่วงสุกสิ อันนี้เห็นผลเร็วกว่านะ ลองทำดู ท่านพูดไปแล้วท่านก็ขำไปค่ะ
สุดท้ายเมื่อหมดเวลาจริงๆ ท่านก็บอกว่าไปเตรียมตัวสอบได้เลยนะ ก่อนที่จะเดินมาส่งหนูที่หน้าประตูค่ะ >< หนูนี่เดินตัวลอยเลยค่ะครู ผ่านแล้ว ผ่านแบบที่ไม่ต้องนั่งรอผล ครั้งนี้ต้องขอบคุณครูจ้ะสำหรับแนวข้อสอบจริงๆค่ะ ช่วยได้มากจริงๆ และก็ต้องขอบคุณตัวเองที่สามารถควบคุมตัวเองได้ดีขนาดนี้
หนูไม่ได้ทำตาวอกแวกแบบที่ครูเคยบอกแล้วนะคะ รอบนี้หนู clear eye contact มากๆ ค่ะ
English Test
หนูมีเวลาเตรียมตัวสองชั่วโมงก่อนการสอบค่ะ หลังจากไปจัดการมื้อกลางวันกับเพื่อนชาวมาเลแล้วเพื่อนๆ เค้าก็ขอตัวไปละมาดค่ะ หนูเลยเดินออกมาหามุมเงียบๆ อ่านหนังสือทวนอยู่คนเดียว เพราะหนูตั้งใจกับการทำข้อสอบครั้งนี้มากค่ะ ไม่อยากตก ถ้าตกนี่อายเค้าแย่เลยค่ะจบภาษาอังกฤษ แถมไปอยู่เมืองนอกมาแต่ทำข้อสอบภาษาอังกฤษไม่ผ่าน 555 หนูไม่อยากให้มันเกิดเหตุการแบบนี้ค่ะ เลยต้องตั้งใจหน่อย อ่านมากๆ ท่องศัพท์มากๆ
หนูนึกถึงคำพูดของครูมากิโน๊ะที่เคยบอกไว้ตอนไปร่วมโครงการที่ญี่ปุ่นค่ะ ว่าลักษณะของคนญี่ปุ่นคือถ้าเราเตรียมตัวมาดีก็ไม่มีอะไรต้องกังวล หนูจำได้ขึ้นใจค่ะ และมันจะเป็นแบบนั้น ไม่รู้ว่าข้อสอบจะยากหรือง่าย แต่หนูต้องเต็มที่กับเวลาตรงนี้ก่อนนะ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง… เมื่อถึงเวลานัดหนูก็ขึ้นไปนั่งรอในห้องสอบค่ะ คราวนี้เจอคนไทยแล้วค่ะครู มากจากรอบวอร์คอินวันนี้ค่ะ ก็เลยคุยๆ กันสักพักกรรมการก็เอาข้อสอบมาแจกแล้วอธิบายรายละเอียดค่ะ
หลังจากแจกข้อสอบแล้วเริ่มจับเวลาหนูแอบตกใจเล็กน้อยค่ะ เพราะข้อสอบมาเป็นเล่มเลยค่ะ 555 เยอะมากๆ เลยค่ะครู เวลาทำสองชั่วโมงค่ะ หนูก็ไม่รอช้าเริ่มทำเลยค่ะรวมๆ กันเเล้วข้อสอบประมาณร้อยกว่าข้อค่ะ เวลาสองชั่วโมง แต่ส่วนมากไม่ถึงชั่วโมงแรกก็เสร็จกันแล้วค่ะ มีหนูออกจากห้องเกือบคนสุดท้ายเพราะมัวแต่ตรวจคำตอบกับอ่านทวนอยู่ 555 ไม่อยากปล่อยให้ผ่านแม้แต่ข้อเดียวค่ะ คะแนนเดียวก็มีผล เวลาที่เค้าให้มาก็เยอะมากด้วยค่ะ ตรวจละเอียดตรวจหลายรอบแล้วเวลายังเหลือ ข้อสอบไม่ยากเกินไป ใครได้โทอิกตั้งแต่ 600 ข้อไปนี่ทำได้สบายๆ เลยค่ะ แล้วเวลาก็ไม่น้อยเกินไปด้วย กำลังพอดีเลยค่ะ
หลังจากนั้นก็กลับที่พักค่ะ เจ้าหน้าที่คุมสอบบอกว่ารอรับ โกลเด้นคอลภายในหนึ่งอาทิตย์สำหรับคนมาเล ส่วนคนไทยเช่นหนูกับเพื่อนอีกคนรอทราบผลทางอีกเมลค่ะ ถ้าหากภายในหนึ่งอาทิตย์ยังไม่ได้แปลว่าไม่ได้ไปต่อค่ะ หลังจากนัดแนะรายละเอียดส่วนที่เหลือเรียบร้อยแล้วก็แลกไลน์กับเพื่อนๆ กันค่ะ เอาไว้ติดตามข่าวสาร แล้วก็เเยกย้ายกันกลับที่พักด้วยค่ะ หนูก็กลับไปเก็บของแล้วเตรียมไปเที่ยวสิงคโปร์ต่อเลยค่ะ เป็นการฆ่าเวลาระหว่างรอฟังผล เพราะถ้าผ่านก็ต้องไปที่ออฟฟิสที่กัวลาลัมเปอร์เพื่อเซ็นต์สัญญาค่ะ
Waiting for congratulation email.
หลังจากผ่านไปแล้วหนึ่งวัน เพื่อนชาวไทยที่เจอ และเพื่อนชาวมาเลคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยกันส่งข่าวว่าได้โกลเด้นคอลกันแล้ว ผ่านแล้ว บางคนก็ตก ส่วนหนูยังไม่ได้ค่ะ เริ่มเครียดแล้ว 555 เป็นพวกคิดมาก เที่ยวสิงคโปร์ไม่สนุกเท่าไหร่เลยค่ะครู นั่งกดรีเฟสเมลทั้งวัน แต่ก็ยังไม่มาค่ะ จนวันที่สองก็ไม่ได้ ในขณะที่เพื่อนๆ ชุดสุดท้ายได้กันแล้ว หนูเริ่มจิตตกแล้วค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ผ่าน ไม่รู้ว่าตัวเองพลาดตรงไหนด้วยซ้ำ ตอนนั้นยังบ่นๆ กับเพื่อนเลยค่ะว่าสงสัยจะไม่ได้เซอร์ไพรส์ครูจ้ะแล้วแน่นอน ไม่ได้ไปต่อแล้ว 555 เพื่อนก็บอกใจเย็นๆ เพิ่งวันที่สองเอง
แต่สุดท้ายพอเวลาผ่านมาถึงวันที่เจ็ด หนูก็ยังไม่ได้ค่ะ วันที่ 16 กพ 2016 เป็นวันสุดท้ายตามเคอร์ฟิลที่เค้าบอกไว้ อีเมลหนูก็ยังเงียบเหมือนเดิมค่ะ ตอนนั้นอยู่ไทยเเล้ว เพื่อนๆ ในไลน์ก็ถามว่าสรุปได้ป่าว ได้รึยัง? ตอนนั้นเครียดมากๆ เลยค่ะ ถ้าตกรอบครั้งนี้หนูยังพอทำใจได้ค่ะแต่ทีนี้ไม่รู้ว่าตกเพราะอะไรทั้งๆ ที่คิดว่ารอบนี้เป้นรอบที่หนูให้คะแนนตัวเอง90เต็ม100% แท้ๆ หนูว้าวุ่นมากๆ ค่ะไม่รู้ว่าพลาดตรงไหน
กลับไปซึมต่อที่บ้านคิดว่าหลังจากนี้คงต้องบรีฟตัวเองใหม่อีกแล้ว ไมรู้พลาดตรงไหน แต่ต้องพัฒนาตัวเองใหม่ทุกจุดแน่นอน หลังจากนั้นเพื่อนๆ คนที่ได้ก็ทยอยไปเซ็นต์สัญญาที่กัวลาลัมเปอร์ค่ะ ถ่ายรูปสัญญาพร้อมกับหนังสือคู่มือส่งมาให้ดู หนูเองก็เเสดงความยินดีกับเขาด้วยค่ะ ก็เข้าใจดีว่ากว่าจะพยายามจนสำเร็จมันต้องต่อสู้กับอะไรบ้าง ครั้งนี้หนูทำได้แค่ยินดีกับคนอื่น แต่ครั้งต่อไปมันต้องเป็นครั้งของหนูค่ะ…
หลังจากนั้นหนูก็เหี่ยวเฉาไปพักนึงจนนึกขึ้นได้ว่ามานั่งซึมแบบนี้มันก็ไม่ได้อะไรเลยเปิดคอมหาข้อสอบในอีเมลตั้งแต่สมัยเรียนมีทำดูอีกรอบ เพื่อเตรียมตัวสำหรับสนามเอมิเรสต์รอบเดือนหน้าอีกครั้ง
พอเปิดดู อีเมลเท่านั้นแหละ
Oman Air Cabin Crew Interview: Incomplete Personal Details
Oman Air Cabin Crew Interview
Oman Air Pre- Induction Workbook
ครูคะ หนูตาค้างกับสามอีเมลนี้ที่เพิ่งเข้ามาค่ะ จังหว่ะที่กดเข้าไปดูมื้องี้สั่นไปหมดเลยค่ะ ฉบับแรกทักมาถามว่าหนูยังไม่ได้เเจ้งว่าจะเริ่มงานได้ตอนไหน ฉบับที่สองบอกว่า หนูต้องไปเซ็นต์สัญญาพรุ่งนี้ที่กัวลาลัมเปอร์วันสุดท้ายแล้วนะ ส่วนฉบับสุดท้ายเป็นคู่มือสำหรับการเตรียมความพร้อมไปเทรนงานที่มัสกัตคร่าาาา ^0^ กรี๊ดเลยค่ะ กรี๊ดจนหมาเห่าเลย
ถึงแม้หนูจะไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ ถึงได้เมลแบบนี้แต่ก็รีบจองตั๋วจองโรงแรมทันทีเลยค่ะ Again at Inter Excel Kuala Lumpur ไฟลต์เช้าที่เร็วสุดที่หนูไปได้คือรอบสิบโมงเช้าค่ะ เพราะหนูต้องขับรถมาจากต่างจังหวัดเพื่อไปสนามบินดอนเมือง จองเร็วกว่านี้กลัวจะไปขึ้นเครื่องไม่ทันค่ะ… โชคดีที่ในอีเมลระบุว่าให้มาเซ็นต์สัญญาแล้วบรีฟได้ตังแต่เก้าโมงเช้าถึงหกโมงครึ่ง เลยไม่ต้องรีบมากเท่าไหร่ค่ะ วันนี้แต่งตัวมาจากบ้านเลยค่ะ สูทเเขนสั้นตัวเดิม หน้าแน่นตั้งแต่ตีสามค่ะ ไม่อยากไปเสียเวลาเเต่งตัวใหม่ที่สนามบิน ตลอดสองชั่วโมงที่นั่งเครื่องหนูตื่นเต้นมากค่ะ
สี่เดือนเต็มๆที่ตามล่าฝันกับอาชีพลูกเรือ ในที่สุดหนูก็ทำมันสำเร็จแล้วค่ะ หลังจากสอบมาทั้งหมดสี่ครั้ง ทุกครั้งที่ตกรอบ หนูสัญญากับตัวเองเสมอว่ารอบต่อไปต้องมาไกลว่านี้ ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นทุกรอบค่ะ หนูไปไกลสุดได้แค่รอบเกือบเป็น ดังนั้นการสอบของ Oman Air รอบนี้ หนูต้องไปไกลกว่ารอบสุดท้ายค่ะ หนูต้องผ่านค่ะ! แล้วหนูก็ทำมันได้แล้วจริงๆ ค่ะครู หนูชนะตัวเองแล้วค่ะครู ดีใจมากๆเลยค่ะ หนูทำได้แล้ว เงินทั้งหมดที่แม่ลงทุนให้ได้คืนทุกแล้วค่ะ
พอไปถึงออฟฟิสวันนี้หนูไม่เจอคณะกรรมการจากสายการบินแล้วค่ะ มีแค่เจ้าหน้าที่ที่อยู่ที่ออฟฟิสเดินออกมารับ หนูเลยลองถามเค้าว่าสรุปหนูได้ใช่ไหมคะ เพราะเห็นมันเกินกำหนดมาหลายวันนี้เลยนึกว่าตัวเองตกทางเจ้าหน้าที่เค้าก็งงไปแปบนึงค่ะ เค้าเลยไปหาข้อมูลมาให้ สรุปว่าตอนส่งอีกเมลประกาศผล ชื่อหนูตกหล่นคร่าาาาาา -o- (เกือบไม่ได้แล้วสินะคะ) โล่งเลยค่ะ พอรู้สาเหตุ ตอนแรกหนูก็คิดว่าความสามรถหนูยังไม่ผ่านซะอีก หลังจากอ่านรายละเอียดการทำงานและเซ็นต์สัญญาเค้าก็ให้หนูกลับได้ค่ะ พร้อมกับบอกว่าจะเรียกไปเทรนไม่เกินสามเดือน ต้องรอวีซ่าก่อน ระหว่างนี้หนูก็ต้องฝึกว่ายนำ้ค่ะ 555 กว่าจะได้เป็นว่ายากแล้ว ด่านต่อไปของหนูยากกว่าค่ะครู แต่มาจนถึงขนาดนี้แล้วหนูไม่ยอมปล่อยโอกาศแน่นอนค่ะ
ในที่สุดหนูก็ได้ติดปีกเหมือนเพื่อนๆ คนอื่นแล้วค่ะ หนูสัญญาว่าหนูจะทำเต็มที่ทุกอย่างจะไม่มานั่งเสียใจทีหลัง หนูเลือกทางนี้และหนูทำได้เเล้ว ขอบคุณครูจ๊ะที่ทำให้ความฝันของหนูเป็นจริงนะคะ หนูมีวันนี้ได้เพราะการชี้เเนะของครูค่ะ รวมทั้งครูมากิโน๊ะและเพื่อนๆ ชาวญี่ปุ่นที่ Aso College Group ด้วยค่ะ ต่อไปนี้หนูจะเป็น Motivation ที่ดีกว่าเดิมให้กับพวกเขาค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะครู ครูรอดูหนูใ่ส่ ชุดยูนิฟอร์ม Balenciaga นะคะ ><